วิเคราะห์บอลยูโร 2020-2021 วันนี้
เปิดฉากขึ้นอีกครั้งกับมหกรรมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภาคพื้นยุโรป คือการแข่งขันยูโร 2020-2021 ที่ผ่านการคัดเลือกกันมาอย่างยาวนานจนกระทั่งได้ 24 ทีมสุดท้ายเข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการ โดยปีนี้มีความพิเศษกว่าการแข่งขันครั้งใดๆ เนื่องจากไม่มีประเทศเจ้าภาพ แต่อาศัยสนามแข่งที่มีมาตรฐานทั่วภูมิภาคยุโรปเพื่อดำเนินการแข่งขัน
หัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับบอลยูโร2020
24 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มมีดังนี้
รอบแบ่งกลุ่มนี้จะมีทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป 16 ทีม ได้แก่ทีมอันดับ 1 และอันดับ 2 ของแต่ละกลุ่มจะได้เข้ารอบโดยอัตโนมัติซึ่งมีทั้งหมด 12 ทีม ส่วนอีก 4 ทีมจะคัดเลือกจากอันดับ 3 ของกลุ่มที่มีผลการแข่งขันดีที่สุด
กลุ่ม A
เต็ง ทีมชาติอิตาลี
ต้องยอมรับว่าอิตาลีมีความแข็งแกร่งทางด้านขุมกำลังอย่างครบถ้วนที่สุดตั้งแต่ผู้รักษาประตูจานลุยจิ ดอนนารุมม่า กองหลังอย่าง ลีโอนาร์โด้ โบนุชชี่ กองหน้าฟอร์มร้อนแรงอย่างอิมโมเบเล และที่สำคัญคือ 2 หัวใจในแดนกลางอย่างมาร์โก แวร์รัตติกับจอร์จินโญ่
อันดับสองของกลุ่ม
จะเป็นการแย่งกันทั้ง 3 ทีม ระหว่างตุรกี เวลส์ และสวิสเซอร์แลนด์ โดยทีมชาติตุรกีมีจุดเด่นที่แผงกองหลังซึ่งนำทัพโดย เมริห์ เดมิราล กับ ฮาคาน โซยุนซู ส่วนทีมชาติเวลส์จะอาศัยประสบการณ์ของเหล่าซุปเปอร์สตาร์จอมเก๋าไม่ว่าจะเป็น แกเร็ธ เบล, เบน เดวีส์ และอารอน แรมซี่ย์
ส่วนสวิตเซอร์แลนด์จะอาศัยความแข็งแกร่งในแนวรับพร้อมทั้งความสามารถเฉพาะตัวของกรานิต ชาก้า และ เชอดาน ชากิรี่ จะช่วยพาทีมสวิตเซอร์แลนด์เข้ารอบเป็นอันดับสอง
กลุ่ม B
เต็ง ทีมชาติเบลเยียม
ทีมอันดับ 1 จากฟีฟ่า แรงค์กิ้ง ซึ่งแน่นอนว่าทีมปีศาจแดงแห่งยุโรปทีมนี้ไม่ได้มีดีแค่อันดับเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วยนักเตะชื่อดังอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น เควิน เดอบรอยน์, โรเมลู ลูกากู, ตีโบ กูร์ตัว, โทบี อัลเดอร์ไวเรลด์ และ ยูริ เตเลอมองส์
อันดับสองของกลุ่ม
เป็นการแย่งชิงกันระหว่างเดนมาร์กกับรัสเซีย โดยหากพิจารณาจากฟอร์มที่ร้อนแรงของทีมชาติเดนมาร์กในรอบคัดเลือกที่ไม่แพ้เลยแม้แต่เกมเดียว และยังได้นักเตะมากประสบการณ์อย่างคริสเตียน อีริคเซ่น กับแคสเปอร์ ชไมเคิลนำทีม จึงมีโอกาสสูงกว่ารัสเซียเล็กน้อย
ส่วนฟินแลนด์แม้ว่าจะโชว์ฟอร์มในเกมรับได้ดีในรอบคัดเลือก แต่เราคาดการณ์ว่าไม่น่าจะผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ เนื่องจากผลงานโดยรวมของฟินแลนด์นั้นเล่นดีในบ้าน แต่เล่นแย่นอกบ้าน
กลุ่ม C
เต็ง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
เนเธอร์แลนด์ ที่มีนักเตะชื่อดังคับคั่งมากมาย แต่น่าเสียดายที่ปราการหลังตัวเก่งอย่าง เวอร์จิล ฟานไดค์ ได้รับบาดเจ็บกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู แต่ก็ได้นักเตะตัวหลักคนอื่นๆ มากันครบไม่ว่าจะเป็น เมมฟิส เดปาย, สเตฟาน เดอฟราย, มาไทก์ เดอลิค และ จอร์จินโญ่ ไวนัลดุม
อันดับสองของกลุ่ม
ยูเครนตามมาเป็นอันดับ 2 แบบต้องลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย แม้จะไม่มีนักเตะชื่อดังมากมาย แต่เนื่องด้วยสไตล์การคุมทีมของ อังเดร เชฟเชนโก้ อดีตศูนย์หน้าเบอร์ 1 ของโลก ที่เน้นบุกแหลกประกอบกับลักษณะการเล่นแบบเน้นทีมเวิร์ค
ทางด้าน นอร์ทมาซิโดเนีย แม้จะมีนักเตะชื่อดังอย่าง โกราน ปานเดฟ นำทัพ แต่ด้วยวัย 37 ปี ที่ผ่านช่วงฟอร์มที่ดีที่สุดมามากแล้ว จึงน่าจะช่วยอะไรทีมได้ไม่มาก คาดว่าน่าจะแย่งตำแหน่งบ๊วยของกลุ่มกับออสเตรียไปตามระเบียบ
เนื่องจากออสเตรียนั้น แม้ว่าจะผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายในฟุตบอลยูโรมาอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดีนักและมักจะเป็นทีมแจกแต้มอยู่เป็นประจำ
กลุ่ม D
เต็ง ทีมชาติอังกฤษ
อังกฤษยุคเจเนอเรชั่นใหม่ ที่มีนักเตะรุ่นใหม่เป็นแกนหลัก อย่าง ฟิลล์ โฟเด้น, มาคัส แรชฟอร์ด บวกกับฟอร์มการถล่มประตูของดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกอย่าง แฮรี่ เคน ทำให้ถูกคาดหมายว่าอังกฤษน่าจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้ไม่ยากนัก
อันดับสองของกลุ่ม
โครเอเชียมีภาษีดีกว่าทีมอื่น แม้ว่าจะมีสตาร์ประจำทีมไม่มากนัก แต่เป็นทีมที่เน้นรุกรับกันเป็นทีม และการประคองเกมของจอมเก๋าอย่าง ลูก้า โมดริช กับ อิวาน เปริซิซ จึงเชื่อได้ว่าทีมแครแอต จะเก็บคะแนนผ่านเข้ารอบได้สบายๆ เช่นเดียวกัน และเผลอๆ อาจจะเบียดเข้าป้ายเป็นที่ 1 ของกลุ่มแทนสิงโตคำรามเลยก็อาจเป็นได้
สก๊อตแลนด์ กับ สาธารณรัฐเช็ก ถือว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมมากแล้วที่ผ่านมาถึงยูโรรอบแบ่งกลุ่ม และไม่น่าจะได้ไปต่อ ด้วยปัจจัยด้านระดับฝีเท้าของนักเตะและมาตรฐานการเล่น ที่นับว่ายังห่างชั้นจากอังกฤษกับโครเอเชียมาก
กลุ่ม E
เต็ง ทีมชาติสเปน
สเปนยังได้ชื่อว่าเป็นบราซิลแห่งยุโรปที่เน้นการครองบอลเหนียวแน่น เคาะบอลตามช่องได้ดี และมีความสามารถเฉพาะตัวโดยรวมสูงกว่าทีมคู่แข่งในกลุ่ม จึงน่าจะเอาตัวรอดผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
อันดับสองของกลุ่ม
โปแลนด์ กับ สวีเดนจะแย่งตั๋วเข้ารอบกันอย่างสูสี โดยโปแลนด์นั้นมีจุดเด่นอยู่ที่จังหวะจบสกอร์ของ โรเบิร์ต เลวานดอฟกี้ เราจึงคาดว่าโปแลนด์จะอาศัยการจบสกอร์ที่เด็ดขาดของเลวานดอฟกี้ พาทีมผ่านเข้ารอบไปได้สำเร็จ
ด้านสโลวาเกีย แม้จะมี มาเร็ก ฮัมชิก กัปตันทีมวัย 33 ปีช่วยประคองทีม แต่ในตำแหน่งอื่นๆ ยังมาตรฐานห่างไกลจากคุ่แข่งในกลุ่ม จึงน่าจะจบการแข่งขันแค่ในรอบแบ่งกลุ่มนี้
กลุ่ม F
เต็ง ทีมชาติเยอรมัน
เยอรมันมีโอกาสมากสุดที่จะเข้าสู่รอบต่อไป และยังคาดการว่าจะเป็นทีมอันดับต้นๆ ในการลุ้นแชมป์ ด้วยฝีมือของโค้ชจอมเก๋าอย่าง โยอาคิม เลิฟ ประกอบกับนักเตะที่คุณภาพคับแก้วทั้ง มานูเอล นอยเออร์, มัธ ฮุมเมิล, โธมัน มุลเลอร์, โทนี่ โครส และนักเตะฟอร์มร้อนแรงแห่งยุโรปในช่วงสองปีที่ผ่านมาได้แก่ ไคลน์ ฮาเวิร์ช
อันดับสองของกลุ่ม
ฝรั่งเศสเองก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ด้วยการชนะถึง 8 นัด จาก 10 เกมที่ลงแข่งขัน เราจึงเชื่อมั่นว่าในกลุ่มนี้ เยอรมันกับฝรั่งเศสจะจูงมือกันเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนฮังการี มาเจอเพื่อนร่วมสายแบบนี้คงต้องทำใจตกรอบไปตามระเบียบ
ทางด้านโปรตุเกสที่นำทัพโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นั้น น่าเสียดายที่จับสลากมาอยู่กลุ่มนี้ แม้ว่าจะมีนักเตะจอมเทคนิคอยู่ในทีมพอสมควร แต่ฟอร์มของนักเตะทั้งทีมยังฝีเท้าห่างไกลจากฝรั่งเศสกับเยอรมัน
โปรแกรมแข่งขันบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม 24 ทีม
วันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. 64
เวลา 02:00 น.
ตุรกี VS อิตาลี
เวลา 20:00 น.
เวลส์ VS สวิตเซอร์แลนด์
เวลา 23:00 น.
เดนมาร์ก VS ฟินแลนด์
เวลา 02:00 น.
เบลเยี่ยม VS รัสเซีย
วันอาทิตย์ที่ 13 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
อังกฤษ VS โครเอเชีย
เวลา 23:00 น.
ออสเตรีย VS น.มาชิโดเนีย
เวลา 02:00 น.
เนเธอร์แลนด์ VS ยูเครน
วันจันทร์ที่ 14 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
สกอตแลนด์ VS เช็ก
เวลา 23:00 น.
โปแลนด์ VS สโลวาเกีย
เวลา 02:00 น.
สเปน VS สวีเดน
วันอังคารที่ 15 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
ฮังการี VS โปรตุเกส
เวลา 02:00 น.
ฝรั่งเศส VS เยอรมัน
วันพุธที่ 16 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
ฟินแลนด์ VS รัสเซีย
เวลา 23:00 น.
ตุรกี VS เวลส์
เวลา 02:00 น.
อิตาลี VS สวิตเซอร์แลนด์
วันพฤหัสที่ 17 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
ยูเครน VS น.มาซิโดเนีย
เวลา 23:00 น.
เดนมาร์ก VS เบลเยี่ยม
เวลา 02:00 น.
เนเธอร์แลนด์ VS ออสเตรีย
วันศุกร์ที่ 18 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
สวีเดน VS สโลวาเกีย
เวลา 23:00 น.
โครเอเชีย VS สาธารณรัฐเช็ก
เวลา 02:00 น.
อังกฤษ VS สกอตแลนด์
วันเสาร์ที่ 19 มิ.ย. 64
เวลา 20:00 น.
ฮังการี VS ฝรั่งเศส
เวลา 23:00 น.
โปรตุเกส VS เยอรมัน
เวลา 02:00 น.
สเปน VS โปแลนด์
วันอาทิตย์ที่ 20 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
อิตาลี VS เวลส์
เวลา 23:00 น.
สวิตเซอร์แลนด์ VS ตุรกี
วันจันทร์ที่ 21 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
ยูเครน VS ออสเตรีย
เวลา 23:00 น.
น.มาซิโดเนีย VS เนเธอร์แลนด์
เวลา 02:00 น.
รัสเซีย VS เดนมาร์ก
เวลา 02:00 น.
ฟินแลนด์ VS เบลเยี่ยม
วันอังคารที่ 22 มิ.ย. 64
เวลา 02:00 น.
โครเอเชีย VS สกอตแลนด์
เวลา 02:00 น.
สาธารณรัฐเช็ก VS อังกฤษ
วันพุธที่ 23 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
สโลวาเกีย VS สเปน
เวลา 23:00 น.
สวีเดน VS โปแลนด์
เวลา 02:00 น.
โปรตุเกส VS ฝรั่งเศส
เวลา 02:00 น.
เยอรมัน VS ฮังการี
โปรแกรมแข่งขันบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีม
วันเสาร์ที่ 26 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
เวลส์ VS เดนมาร์ก
เวลา 02:00 น.
อิตาลี VS ออสเตรีย
วันอาทิตย์ที่ 27 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
เนเธอร์แลนด์ VS สาธารณรัฐเช็ก
เวลา 02:00 น.
เบลเยี่ยม VS โปรตุเกส
วันจันทร์ที่ 28 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
โครเอเชีย VS สเปน
เวลา 02:00 น.
ฝรั่งเศส VS สวิตเซอร์แลนด์
วันอังคารที่ 29 มิ.ย. 64
เวลา 23:00 น.
อังกฤษ VS เยอรมัน
เวลา 02:00 น.
สวีเดน VS ยูเครน
โปรแกรมแข่งขันบอลยูโร 2020 รอบ 8 ทีม
วันศุกร์ที่ 2 ก.ค. 64
เวลา 23:00 น.
สวิตเซอร์แลนด์ VS สเปน
เวลา 02:00 น.
เบลเยี่ยม VS อิตาลี
วันเสาร์ที่ 3 ก.ค. 64
เวลา 23:00 น.
สาธารณรัฐเช็ก VS เดนมาร์ก
เวลา 02:00 น.
ยูเครน VS อังกฤษ
โปรแกรมแข่งขันบอลยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ
โปรแกรมแข่งขันบอลยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ
เจ้าภาพจัดบอลยูโร 2020
เจ้าภาพบอลยูโร 2020 ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่มีชาติที่เป็นเจ้าภาพหลัก 1 หรือ 2 ประเทศเหมือนอย่างที่เคยจัดกันมาตั้งแต่ปี 1960 ในปี 2020 เพื่อฉลองครบรอบ 60 ปีของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า และต้องการให้ทุกชาติในทวีปยุโรปได้มีส่วนร่วมกับทัวร์นาเมนต์นี้ จึงได้กระจายการแข่งขันไปในเมืองของชาติต่างๆ ทั่วทั้งทวีปที่รับหน้าที่มีจัดการแข่งขันของแต่ละกลุ่ม และในแต่ละรอบรวมกันทั้งหมด12 ประเทศ
บอลยูโร 2020 ถ่ายทอดสดช่องไหน
สำหรับประเทศไทย ฟุตบอลยูโร 2020 จะถ่ายทอดสดที่ช่อง NBT (สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย) หรือช่อง 11 นั่นเอง โดยเราสมมารถติดตามชมตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์นี้ได้แบบฟรีๆ ตั้งแต่การแข่งขันนัดแรกในคืนวันที่ 11 มิถุนายน ไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในคืนวันที่ 11 กรกฎาคม โดยจะถ่ายทอดสดผ่านทาง NBT 2 HD ทีวีดิจิตอลช่อง 2 นั่นเอง
ดูโปรโมชั่นแทงบอลดีๆ พร้อมเครดิตฟรีได้ที่ โปรโมชั่นแทงบอล