ยูเครน vs ออสเตรีย
สนามแข่งขัน : เนชั่นแนล อารีน่า, กรุงบูคาเรสต์โรมาเนีย (สนามกลาง)
เวลา : 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ถ่ายทอดสด : NBT 2HD | True Sports HD
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ทีมชาติยูเครน
17/06/21 : 2-1 นอร์ทมาซิโดเนียส (ยูโร 2020)
13/06/21 : 2-3 เนเธอร์แลนด์ (ยูโร 2020)
07/06/21 : 4-0 ไซปรัส (กระชับมิตรทีมชาติ)
03/06/21 : 1-0 บาห์เรน (กระชับมิตรทีมชาติ)
24/05/21 : 1-1 ซานมารีโน่ (กระชับมิตรทีมชาติ)
ทีมชาติออสเตรีย
17/06/21 : 0-2 เนเธอร์แลนด์ (ยูโร 2020)
13/06/21 : 3-1 นอร์ทมาซิโดเนีย (ยูโร 2020)
06/06/21 : 0-0 สโลวาเกีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
02/06/21 : 0-1 อังกฤษ (กระชับมิตรทีมชาติ)
31/03/21 : 0-4 เดนมาร์ก (คัดเลือกบอลโลก)
สถิติการพบกัน 2 นัดหลังสุด
ยูเครน 1 | เสมอ 0 | ออสเตรีย 1
16/11/11 : ยูเครน 2-1 ออสเตรีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
02/06/12 : ออสเตรีย 3-2 ยูเคร (กระชับมิตรทีมชาติ)
วิเคราะห์ภาพรวมของทีม
ยูเครน – อังเดร เชฟเชนโก้
ในแดนหน้ามี อันเดร ยาร์โมเลนโก้ กับ โรมัน ยาเรมชุค ลงสนามเป็นเพชรฆาตสังหารประตู แผงมิดฟิลด์ได้ รุสลัน มาลินอฟสกี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ เซอร์เก้ ซิดอร์ชุค ช่วยกันจัดการแดนกลาง ปราการหลังตัวหลักเป็นการประสานงานของ อิลย่า ซาบาร์นยี่ กับ มีร์โคล่า มัตวิเยนโก้
รูปแบบการเล่นในเกมนี้ทีมยูเครนน่าจะเป็นฝ่ายพยายามครองบอลเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้ออสเตรียดันเกมสูงแล้วค่อยอาศัยช่องว่างในแดนหลังเจาะเข้าทำประตู เนื่องจากออสเตรเลียมีผลต่างประตูเป็นรองจึงต้องพยายามดันเกมขึ้นหน้า ทำให้เปิดช่องโหว่ในแนวรับได้
ออสเตรีย – ฟรังโก โฟดา
เกมนี้มีข่าวดีคือ มาร์โก อาเนาโตวิช สามารถกลับมาลงล่าตาข่ายได้แล้วหลังจากที่ถูกแบนนึงนัด ส่วนตำแหน่งอื่นๆคาดว่า ดาเนี่ยล บัคมันน์ ยืนเป็นผู้รักษาประตู สเตฟาน ไลเนอร์ อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช ยืนเป็นคู่ปราการหลัง แดนกลางจะใช้ คริสโตฟ เบาม์การ์ทเนอร์, คอนราด ไลเมอร์, ซาเวอร์ ชลาเกอร์ และ ดาวิด อลาบา ลงกันครบ และกองหน้า มาร์โก อาร์เนาโตวิช ลงสนามแน่นอน ส่วนอีกตำแหน่งต้องเลือกระหว่าง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ มิคาเอล เกรกอริทช์ ว่าโค้ชจะตัดสินใจเลือกใคร
รูปแบบการเล่นในเกมนี้ออสเตรเลียต้องเป็นฝ่ายพยายามทำเกมรุกเพื่อยิงประตูให้ได้ก่อน เพราะมีผลต่างประตูเป็นฝ่ายตามหลังอยู่ แต่ไม่ง่ายที่จะทะลวงความแข็งแกร่งของโครเอเชียเข้าไปตรงกลาง ดังนั้นอาจจะได้เห็นการขึ้นเกมทางด้านข้างโดยการเติมเกมรุกของวิงแบ๊ค เช่นดาวิด อลาบา แล้วอาศัยการครอสเข้ากลางเพื่อให้กองหน้าหาจังหวะจบสกอร์
รูปเกมและผลการแข่งขันที่คาด
โดยรวมแล้วมาตรฐานการเล่นของทั้งสองทีมไม่หนีกันมากนัก แต่ยูเครนดูจะเป็นต่อที่ความแข็งแกร่งและทีมเวิร์คของผู้เล่นที่ดีกว่า แม้ว่าออสเตรเลียจะต้องเป็นฝ่ายพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ แต่ก็ไม่ง่ายที่จะแย่งบอลกลับมาทำเกม
เนื่องจากทีมชาติยูเครนหวังแค่ผลเสมอก็เข้ารอบต่อไปในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มได้สบายๆแล้ว ทำให้เวลาที่ลูกทีมของ อังเดร เชฟเชนโก้ ได้บอล น่าจะอาศัยการครองเกมเหนียวแน่น ต่อบอลไปมาจนออสเตรียไม่สามารถทำเกมรุกได้ กลายเป็นว่าทีมวิหคเพลิงเองที่อาจจะมีความกดดันจนเกิดความผิดพลาดในแผงเกมรับ ไปเสียเอง
แต่ในขณะเดียวกันแนวรับของยูเครนชุดนี้มีความเร็วไม่มากนัก ถ้าหากออสเตรเลียอาศัยการขึ้นเกมทางเส้นข้างทั้งซ้ายและขวาอย่างรวดเร็ว โดยใช้การประสานงานกันของผู้เล่นแนวรุกกับแบ๊คซ้าย-ขวา ทั้ง 2 ฝั่ง ก็น่าจะป่วนฝังยูเครนได้พอสมควร
โดยรวมแล้วเกมนี้น่าจะเล่นกันได้อย่างสูสีและลุ้นกันสนุก แต่สุดท้ายเราคาดการณ์ว่ายูเครนจะมีโอกาสชนะมากกว่าและคว้าโอกาสเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
สกอร์การแข่งขันที่คาด : ยูเครน ชนะ 1 – 0
อ่านข้อมูลวิเคราะห์บอลยูโรวันนี้ ได้ที่ วิเคราะห์บอลยูโร2020
นอร์ทมาซิโดเนีย vs เนเธอร์แลนด์
สนามแข่งขัน : อัมสเตอร์ดัมอาเรนา, กรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์
เวลา : 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ถ่ายทอดสด : PPTV | True Sports HD3
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ทีมชาตินอร์ทมาซิโดเนีย
17/06/21 : 1-2 ยูเครน (ยูโร 2020)
13/06/21 : 1-3 ออสเตรีย (ยูโร 2020)
04/06/21 : 4-0 คาซัคสถาน (กระชับมิตรทีมชาติ)
01/06/21 : 1-1 สโลวีเนีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
31/03/21 : 2-1 เยอรมัน (คัดเลือกบอลโลก)
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
15/06/21 : 2-0 ออสเตรีย (ยูโร 2020)
07/06/21 : 3-2 ยูเครน (ยูโร 2020)
02/06/21 : 3-0 จอร์เจีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
31/03/21 : 2-2 สก็อตแลนด์ (กระชับมิตรทีมชาติ)
28/03/21 : 7-0 ยิบรอลตาร์ (คัดเลือกบอลโลก)
สถิติการพบกัน 4 นัดหลังสุด
นอร์ทมาซิโดเนีย 0 | เสมอ 2 | เนเธอร์แลนด์ 2
10/10/04 : นอร์ทมาซิโดเนีย 2-2 เนเธอร์แลนด์ (คัดเลือกบอลโลก)
13/10/05 : เนเธอร์แลนด์ 0-0 นอร์ทมาซิโดเนีย (คัดเลือกบอลโลก)
11/09/08 : นอร์ทมาซิโดเนีย 1-2 เนเธอร์แลนด์ (คัดเลือกบอลโลก)
02/04/09 : เนเธอร์แลนด์ 4-0 นอร์ทมาซิโดเนีย (คัดเลือกบอลโลก)
วิเคราะห์ภาพรวมของทีม
นอร์ทมาซิโดเนีย – อิกอร์ อันเกลอฟสกี้
นัดนี้เจองานหนักสุดในทัวร์นาเมนต์ พบกับอัศวินสีส้ม แต่ยังดีที่ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ตัวหลักในการล่าสกอร์เกมนี้น่าจะเป็น โกรัน ปานเดฟ ตัวเก๋าเดอะแบกของทีม ลงยืนหน้าเป้าคู่กับ เอลิฟ เอลมาส เพลย์เมกเกอร์เป็น เอนิส บาร์ดี้ ส่วนมิดฟิลด์จะใช้ โบบัน นิโคลอฟ, เอนิส บาร์ดี้ และ อาริยาน อเดมี่ ตามปกติ นักเตะเกมรับประกอบด้วย สเตฟาน ริสตอฟสกี้, ดาร์โก้ เวลคอฟสกี้, วิซาร์ มุสลิอู, เออร์ซยาน อลิออสกี้ โดยมี สโตเล่ ดิมิตริเยฟสกี้ ยืนเป็นปราการด่านสุดท้าย
รูปแบบการเล่นในเกมนี้น่าจะคล้ายคล้ายกับ 2 เกมที่ผ่านมา คือแม้จะต้องการบุกทำประตู แต่ก็บุกไม่ขึ้นเพราะฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งเกินไป สุดท้ายจะกลายเป็นฝ่ายต้องตั้งรับ และพยายามหาจังหวะสวนกลับด้วยการวางบอลยาวให้กองหน้าลุ้นอาศัยความสามารถเฉพาะตัวเพื่อทำประตูเอาเอง
เนเธอร์แลนด์ – แฟรงก์ เดอ บัวร์
ไม่มีรายงานผู้เล่นที่ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บ สภาพทีมครบสมบูรณ์ โดยผู้เล่นตัวหลักที่คาดว่าน่าจะได้ลงสนามแน่ๆได้แก่ สเตฟาน เดอ ฟรายจ์, เมมฟิส เดปาย, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และ เดนเซล ดัมฟรีส์ วิงแบ็กขวา ฟอร์มกำลังร้อนแรง น่าจะเอาลงเพื่อให้เด็กมันแจ้งเกิดเต็มตัว ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ คงมีการหมุนเวียนนักเตะเพื่อให้ตัวหลักได้พักก่อนเข้าไปลุยศึกในรอบต่อไป
รูปแบบเกมการเล่นของเนเธอร์แลนด์ยังคงเป็นเอกลักษณ์ คืออาศัยการครองบอลแบบโททัลฟุตบอล ต่อบอลเร็ว เคาะบอลไว ส่งบอลตามช่องอย่างแม่นยำ และเน้นการขับเคลื่อนเกมไปข้างหน้ามากกว่าที่จะรอจังหวะ แม้ว่านัดนี้จะไม่มีผลต่ออันดับในกลุ่มแล้วก็ตาม แต่รับรองได้ว่าอัศวินสีส้มไม่ได้มาเล่นๆอย่างแน่นอน คาดว่าน่าจะทำผลงานได้ดีไม่แพ้นัดที่ผ่านๆมา
รูปเกมและผลการแข่งขันที่คาด
เนเธอร์แลนด์น่าจะเป็นฝ่ายเอาบอลไปครองและเดินเกมรุกได้ตั้งแต่ต้นเกม แม้ว่าจะไม่ได้เน้นผลการแข่งขันมากนัก แต่ด้วยฟอร์มกับมาตรฐานการเล่นที่เหนือกว่ากันมาก ทำให้นอร์ท มาซิโดเนียน่าจะเปิดแผลให้ลูกทีมของ แฟรงค์ เดอบัวร์ ได้หาจังหวะจบสกอร์กันบ่อยๆ
ส่วนทางด้านนอร์ทมาซิโดเนียเล่นโดยไร้ความกดดัน อาจจะพอมีแรงฮึดตอบโต้ได้บ้างเพื่อสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล แต่สุดท้ายแล้วน่าจะถูกคู่แข่งกดดันจนเป๋ไปเองจนถึงขั้นเสียประตูในที่สุด ยิ่งถ้าหากว่าเนเธอร์แลนด์สามารถขึ้นนำเร็วและเกมขาดได้ตั้งแต่ครึ่งแรก คาดว่าในครึ่งหลังทางนอร์ทมาซิโดเนียน่าจะส่งตัวสำรองลงให้สัมผัสกับเกมใหญ่
ยิ่งเพิ่มช่องว่างของระดับฝีเท้าของผู้เล่นทั้งสองทีมให้ห่างกันยิ่งขึ้น และอาจจะโดนประตูที่ 3 ประตูที่ 4 ตามมาได้ สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าเนเธอร์แลนด์จะสามารถทะลวงไส้คู่แข่งได้อีก 1 นัด โดยการแทบจะครองเกมอยู่ฝ่ายเดียวตลอดทั้งเกม หรืออาจจะมองได้ว่านัดนี้เป็นเกมซ้อมใหญ่ ก่อนการเข้าสู่รอบต่อไปของของเหล่าพลพรรคแดนกังหันลมก็เป็นได้ เพราะคู่แข่งนอร์ทมาซิโดเนียไม่น่าจะสามารถต้านทานความแข็งแกร่งและความร้อนแรงได้ไหว เป็นฝ่ายโดนยำใหญ่ไปตามระเบียบ
สกอร์การแข่งขันที่คาด : เนเธอร์แลนด์ ชนะ 3 – 0
อ่านข้อมูลวิเคราะห์บอลยูโรวันนี้ ได้ที่ วิเคราะห์บอลยูโร2020
รัสเซีย vs เดนมาร์ก
สนามแข่งขัน : พาร์เค่น สเตเดี้ยม (โคเปนเฮเก้น – เดนมาร์ก)
เวลา : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ถ่ายทอดสด : NBT 2HD | True Sports HD
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ทีมชาติรัสเซีย
16/06/21 : 1-0 ฟินแลนด์ (ยูโร 2020)
13/06/21 : 0-3 เบลเยียม (ยูโร 2020)
05/06/21 : 1-0 บัลแกเรีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
02/06/21 : 1-1 โปแลนด์ (กระชับมิตรทีมชาติ)
31/03/21 : 1-2 สโลวาเกีย (คัดเลือกบอลโลก)
ทีมชาติเดนมาร์ก
17/06/21 : 2-1 เบลเยียม (ยูโร 2020)
12/06/21 : 0-1 ฟินแลนด์ (ยูโร 2020)
06/06/21 : 2-0 บอสเนียฯ (กระชับมิตรทีมชาติ)
03/06/21 : 1-1 เยอรมัน (กระชับมิตรทีมชาติ)
01/04/21 : 4-0 ออสเตรีย (คัดเลือกบอลโลก)
สถิติการพบกัน 1 นัดหลังสุด
รัสเซีย 1 | เสมอ 0 | เดนมาร์ก 0
29/02/10 : เดนมาร์ก 0-2 รัสเซีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
วิเคราะห์ภาพรวมของทีม
รัสเซีย – สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ
เนื่องจากทั้งสองทีมมีคะแนนเท่ากันดังนั้นผลต่างประตูทุกลูก จะมีผลต่อการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทำให้เกมนี้รัสเซียจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบลงปะทะกับทีมโคนมเดนมาร์กอย่างแน่นอน ยูริ เซอร์คอฟ ยังไม่พร้อมจะลงสนาม และ มาริโอ แฟร์น็องเดส กับ ฟีโอดอร์ คุดเรียชอฟ ที่ต้องรอเช็คความฟิตก่อนว่าจะไหวหรือเปล่า
ที่เหลือผู้เล่นพร้อมลงบู๊ทุกตำแหน่ง ปราการหลังจะเป็น อังเดรย์ เซเมนอฟ คู่กับ ดมีทรี บารีนอฟ มาโกเม็ด ออซโดเยฟ เป็นแม่ทัพในแดนกลาง ประสานงานอย่างลงตัวกับ โรมัน ซ็อบนิน ส่วนเกมรุก อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ยอดกองหน้าจาก โมนาโก ลงทำเกม โดยมี อาร์เตม ซูบา เป็นตัวจบสกอร์
รูปแบบการเล่นสไตล์รัสเซียคือเน้นความแข็งแกร่งกับทีมเวิร์คของผู้เล่นที่อยู่ในระดับสูงบดบี้เข้าใส่ทีมคู่แข่ง ถ้าฝั่งตรงข้ามยวบเมื่อไหร่รับรองว่าได้เสียประตูอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการทำเกมรุกของ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน ที่มีฝีเท้าไม่ธรรมดา น่าจะเป็นนักเตะที่ คอยป่วนแนวรับของทีมเดนมาร์กในวันนี้
เดนมาร์ก – เคสเปอร์ ฮูลมานด์
แต่แม้ว่าจะมีโอกาสแค่เล็กน้อยคาดว่าพลพรรคทีมโคนมน่าจะไม่ยอมหมดความหวังง่ายๆ นัดนี้น่าจะจัดตัวผู้เล่นชุดใหญ่ลงประจำการ มีเพียง คริสเตียน อีริคเซน ที่วูบคาสนามคนเดียวที่ไม่ได้ลงอย่างแน่นอน นอกนั้น จะมี แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เฝ้าประตูเช่นเคย กัปตันทีม ซิม่อน เคียร์ เป็นแนวรับตัวหลักคู่กับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น
แผงมิดฟิลด์ใช้บริการของ ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ก จับคู่กับ โธมัส เดลานี่ย์ ส่วนแนวรุกใช้ มาทิอัส เยนเซ่น, ยุสซุฟ โพลเซ่น, มาร์ติน เบรธเวท คอยสร้างสรรค์เกมบุกและมี แคสเปอร์ ดอลเบิร์ก เป็นศูนย์หน้าตัวจบสกอร์
รูปแบบการเล่นของเดนมาร์ก โดยปกติจะเป็นใช้การครองบอลไปตามจังหวะเกม หากมีโอกาสสวยๆ จึงจะขึ้นเกมรุกเพื่อพยายามหาช่องเข้าทำประตู แต่ต้องยอมรับว่าผู้เล่นเกมรุกในชุดนี้ยังไม่ดีพอที่จะเจาะคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งเห็นได้จากผลงานของทั้งสองเกมที่ผ่านมา จึงเป็นที่น่าสนใจว่าในเกมที่ต้องพยายามยิงคู่แข่งมากๆแบบนี้ ทีมเดนมาร์กจะวางแท็กติกอย่างไรเพื่อใช้เจาะแนวรับรัสเซีย
รูปเกมและผลการแข่งขันที่คาด
หมีขาวรัสเซียจะมาในสไตล์บดบี้เข้าใส่ทีมคู่แข่งด้วยแรงปะทะที่เหนือกว่า น่าจะทำให้เดนมาร์กต้องเจอปัญหาในการครองเกมไม่น้อย ซึ่งถ้าหากมีจังหวะสวยๆ เมื่อไหร่เหล่าลูกทีมของ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ ก็พร้อมจะส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายของทีมคู่แข่งทันที โดยอาศัยความเด็ดขาดของ อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน
สุดท้ายแล้วเราเชื่อว่าทั้งสองทีมจะเปิดเกมสู้กันได้อย่างสูสี โดยมีแรงฮึดด้วยกันทั้ง 2 ทีมที่จะพยายามเอาชนะคู่แข่ง แต่เราคาดว่าเมื่อพ้น 60 นาทีไปแล้วทีมเดนมาร์กอาจจะเกิดอาการล้าจากการต้องปะทะตลอดทั้งเกม รวมทั้งความเด็ดขาดในแนวรุกของรัสเซียที่เหนือกว่าจึงน่าจะเอาชนะไปได้อย่างหวุดหวิด
สกอร์การแข่งขันที่คาด : รัสเซีย ชนะ 1 – 0
อ่านข้อมูลวิเคราะห์บอลยูโรวันนี้ ได้ที่ วิเคราะห์บอลยูโร2020
ฟินแลนด์ vs เบลเยี่ยม
สนามแข่งขัน : เครสตอฟสกี้, กรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รัสเซีย
เวลา : 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ถ่ายทอดสด : 3 HD | True Sports HD3
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
ทีมชาติฟินแลนด์
16/06/21 : 1-0 รัสเซีย (ยูโร 2020)
12/06/21 : 1-0 เดนมาร์ก (ยูโร 2020)
04/06/21 : 0-1 เอสโตเนีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
29/05/21 : 0-2 สวีเดน (กระชับมิตรทีมชาติ)
01/04/21 : 2-3 สวิตเซอร์แลนด์ (กระชับมิตรทีมชาติ)
ทีมชาติเบลเยียม
17/06/21 : 2-1 เดนมาร์ก (ยูโร 2020)
13/06/21 : 3-0 รัสเซีย (ยูโร 2020)
07/06/21 : 1-0 โครเอเชีย (กระชับมิตรทีมชาติ)
04/06/21 : 1-1 กรีซ (กระชับมิตรทีมชาติ)
31/03/21 : 8-0 เบลารุส (คัดเลือกบอลโลก)
สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุด
ฟินแลนด์ 0 | เสมอ 3 | เบลเยี่ยม 2
07/06/07 : ฟินแลนด์ 2-0 เบลเยี่ยม (ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมป์เปี้ยนชิพ)
14/10/07 : เบลเยี่ยม 0-0 ฟินแลนด์ (ยูฟ่า ยูโรเปี้ยน แชมป์เปี้ยนชิพ)
11/08/10 : ฟินแลนด์ 1-0 เบลเยี่ยม (กระชับมิตรทีมชาติ)
10/02/11 : เบลเยี่ยม 1-1 ฟินแลนด์ (กระชับมิตรทีมชาติ)
02/06/16 : เบลเยี่ยม 1-1 ฟินแลนด์ (กระชับมิตรทีมชาติ)
วิเคราะห์ภาพรวมของทีม
ฟินแลนด์ – มาร์กคู คาร์เนร์ว่า
นัดนี้ฟินแลนด์จัดชุดใหญ่ลงสนามแน่นอนเนื่องจากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ลูคัส ราเด็คกี้ จะได้ลงเป็นผู้รักษาประตู โดยมีแผงกองหลังเป็น เปาลุส อารายูรี่, แดเนี่ยล โอชอห์เนสซี่ และ โยน่า ตอยวิโอ เกมริมเส้นใช้ ยุคก้า ไรตาล่า ทำเกมคนละด้านกับ เยเร่ ยูโรเน่น มี เกล็น กามาร่า เป็นเพลย์เมกเกอร์ และกองหน้า ตีมู ปุ๊กกี้ คู่กับ โยเอล โปห์ยานปาโล ล่าตาข่าย
แม้ว่าจะต้องการผลชนะในเกมนี้ แต่เมื่อต้องปะทะกับทีมฝีเท้าจัดอย่างเบลเยียม ทำให้ฟินแลนด์น่าจะเป็นฝ่ายครองเกมได้ไม่ถนัด สุดท้ายแล้วจะต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับเพื่อรอโอกาส โดยอาศัยความจี๊ดจ๊าดของ ติมู ปุ๊กกี้ เพื่อพยายามฝ่าแนวรับสุดแกร่งเข้าไปทำประตู
เบลเยียม – โรเบร์โต มาร์ติเนซ
ภาพทีมจะมี ทิโมธี คาสตานเย่ เพียงคนเดียวที่ไม่สามารถลงสนามได้นอกนั้นอยู่กันพร้อมหน้า ติโบต์ กูร์กตัวส์ เฝ้าประตูตามเคย โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ คู่กับ ยาน แฟร์ต็องเก้น เป็นเซนเตอร์แบ๊ก บัญชากลางแดนกลางโดย เควิน เดอ บรอยน์ ที่ล่าสุดทำประตูได้สดๆ ร้อนๆ ประสานงานกับ ยูริ ตีเลมันส์ และ ยานนิค การ์ราสโก้ เกมรุกแถวสองจะมี ดรีส์ เมอร์เทนส์ กับ ธอร์กาน อาซาร์ ละมี โรเมลู ลูกากู เป็นเพชรฆาตประจำทีม
แม้ว่าจะผ่านเข้ารอบไปแล้วและนัดนี้อาจจะใช้ตัวสำรองลงสนามกว่าครึ่งทีม แต่ต้องไม่ลืมว่าจุดเด่นของทีมเบลเยียมคือทีมเวิร์คที่ลงตัว การต่อบอลอันรวดเร็ว และความแข็งแกร่งของกองหลังซึ่งยากที่กองหน้าทีมใดๆจะเจาะเข้าไปได้ง่ายๆ
และการแทงทะลุช่องแบบคิลลิ่งพาสของเควิน เดอบรอยด์ ที่ประมาทไม่ได้ทุกวินาที ทำให้ เกมนี้เบลเยียมยังน่าจะเป็นฝ่ายครองบอลเหนือกว่าคู่แข่งเช่นเคย และค่อยๆสร้างสรรค์โอกาสไปเรื่อยๆจนเจอจังหวะเหมาะๆจบสกอร์ได้แบบไม่ยาก
รูปเกมและผลการแข่งขันที่คาด
ฟินแลนด์ต้องพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อไปวัดกับคู่แข่งเข้ารอบอีก 2 ทีมโดยเฉพาะรัสเซีย ดังนั้นเกมนี้หากชนะได้จะดีที่สุด แต่การจะฝ่าแผงกองหลังที่มีทั้ง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ยาน แฟร์ต็องเก้น แถมยังมี ติโบต์ กูร์กตัวส์ ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายให้กับทีมชาติเบลเยียม จึงไม่ใช่งานง่ายเลยที่ฟินแลนด์จะสามารถทำประตูได้
ส่วนทางฝั่งลูกทีมของ โรเบร์โต มาร์ติเนซ แม้ว่าจะมีการพักผู้เล่นตัวหลักเพื่อเก็บแรงไว้ไฟต์ต่อในรอบหน้า แต่ต้องไม่ลืมว่ามาตรฐานของผู้เล่นเบลเยียมนั้นสูงมาก และยิ่งเอาตัวสำรองลงมายิ่งคึกจัดอยากจะโชว์ผลงานให้เข้าตาโค้ชเผลอๆ จะใส่ไม่ยั้งยิ่งกว่าทีมตัวจริงเสียอีก
ทำให้เบลเยียมน่าจะเป็นฝ่ายครองบอลเปิดเกมรุกเข้าหาคู่แข่งเกือบตลอดทั้งเกม โดยอาศัยการสร้างสรรค์ของ ยูริ ตีเลมันส์ กับการปั้นเกมของ เควิน เดอ บรอยด์ เพื่อให้ โรเมลู ลูกากูหาจังหวะปิดบัญชี ที่กองหลังคู่แข่งไม่น่าจะต้านทานไหว สุดท้ายฟินแลนด์ น่าจะเป็นฝ่ายปราชัยตกรอบไปตามระเบียบ
สกอร์การแข่งขันที่คาด : เบลเยียม ชนะ 2 – 0
อ่านข้อมูลวิเคราะห์บอลยูโรวันนี้ ได้ที่ วิเคราะห์บอลยูโร2020
